สืบเนื่องในโอกาสครบรอบ ๑๐๐ ปี สภากาชาดไทย ในปี พ.ศ. ๒๕๓๖ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงมีพระราชดำริถึงความทุกข์ยาก และต้องการความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง บริเวณชายแดนด้านตะวันตกของประเทศไทย ซึ่งมีเขตแดนติดต่อกับประเทศพม่า พื้นที่แถบนี้เกิดภัยธรรมชาติทุกปี ทั้งภัยแล้ง ภัยหนาวและอุทกภัย ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ง่าย มีไข้ป่าชุกชุม นอกจากนั้นยังมีการสู้รบของชนกลุ่มน้อยบริเวณชายแดนได้รับความเดือดร้อน หากมีสถานีกาชาดอยู่ในเขตพื้นที่แถบนี้ เมื่อเกิดสาธารณภัยพินาศหรือเกิดเหตุการณ์สู้รบตามแนวชายแดน สภากาชาดไทยสามารถดำเนินการให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สภากาชาดไทยจัดตั้งสถานีกาชาดขึ้นที่จังหวัดตาก เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดตากและจังหวัดใกล้เคียง
การดำเนินการก่อสร้าง
สภากาชาดไทย โดยกองบรรเทาทุกข์ (ในสมัยนั้น) ได้ดำเนินการติดต่อประสานงานกับอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ( นายจำเนียร ศศิบุตร) ในการจัดหาที่ดินเพื่อก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีกาชาดตามพระราชดำริ ได้ที่ดินซึ่งเป็นที่ดินของราชพัสดุ ตั้งอยู่บนถนนเจดีย์ยุทธหัตถี ทางหลวงหมายเลข ๑๑๐๗ หมู่ที่ ๓ ตำบลป่ามะม่วง อำเภอเมือง จังหวัดตาก มีพื้นที่ประมาณ ๑๖ ไร่ สมเด็จองค์อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรที่ดิน เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๓๕
กองบรรเทาทุกข์ สภากาชาดไทย ได้ดำเนินการปรับสภาพพื้นที่เพื่อก่อสร้างอาคารสถานีกาชาดที่ ๑๓ โดย นายจำเนียร ศศิบุตร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เป็นผู้รับผิดชอบโครงการก่อสร้างในการออกแบบอาคารและประเมินราคาก่อสร้าง พร้อมทั้งดำเนินการจัดหาทุนมาสมทบในการก่อสร้างอาคารสถานีกาชาด อาคารที่ทำการสถานีกาชาด ประกอบด้วยอาคารที่ทำการพยาบาล อาคารคลังสัมภาระ อาคารที่พักแพทย์และพยาบาล อาคารสัมภาระ อาคารที่จอดรถ - ที่พักคนงาน รวมทั้งระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ
งบประมาณตัวอาคารทั้งหมดเป็นเงิน ๓๑,๗๓๑,๐๑๙.๐๐ บาท ค่าอุปกรณ์และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ อีกประมาณ ๖,๐๐๐,๐๐๐.๐๐ บาท นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายในด้านภูมิทัศน์ส่วนหนึ่งด้วย
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงวางศิลาฤกษ์อาคารสถานีกาชาดที่ ๑๓ เมื่อวันพุธที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๓๖ และได้พระราชทานนามสถานีกาชาดที่ ๑๓ จังหวัดตาก ว่า "เทพรัตน์" ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้
วัตถุประสงค์และการดำเนินงานชองสถานีกาชาดเทพรัตน์ (สถานีกาชาดที่ ๑๓ จังหวัดตาก)
1.ในยามปกติ
1.1 ให้บริการด้านการประชานามัยพิทักษ์ ได้แก่ การรักษาพยาบาล การป้องกัน
โรค การส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพของประชาชนตลอดจนการสังคมสงเคราะห์
1.2 ให้บริการทางวิชาการแก่นักเรียนและประชาชนทั่วไป
1.3 เป็นศูนย์กลางประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
1.4 สร้างความพร้อมในด้านต่างๆ ไว้เพื่อปฏิบัติการเมื่อเกิดเหตุวิกฤตขึ้นได้
ทันท่วงที
1.5 เป็นศูนย์กลางคลังยาเวชภัณฑ์และหน่วยงานอื่นๆ เพื่อร่วมในโครงการต่างๆ
1.6 เป็นศูนย์กลางคลังยาเวชภัณฑ์และเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในการบรรเทา
ทุกข์
1.7 เป็นศูนย์ประสานงานกิจการของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย
1.8 เป็นศูนย์ประสานงานกิจการของศูนย์ดวงตา สภากาชาดไทย
2.ในยามวิกฤติ
2.1 เป็นศูนย์ประสานงานการบรรเทาทุกข์ สภากาชาดไทย ที่ปฏิบัติงานเฉพาะ
หน้าได้ทันการ และเมื่อผ่านช่วงวิกฤติไปแล้วจะทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงาน
กับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
2.2 ดำเนินการแก้ไขฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ของสังคมและสุขภาพอนามัยของ
ประชาชนในเขตพื้นที่ให้กลับคืนสู่สภาพปกติและต่อเนื่อง ทั้งนี้ภายในกรอบวัตถุประสงค์และขีดความสามารถของสภากาชาดไทย
ข้อมูลทั่วไป
สถานีกาชาดเทพรัตน์ (สถานีกาชาด ที่ 13 จังหวัดตาก) ตั้งอยู่เลขที่ ๑๙๙ หมู่ ๓ ถนนเจดีย์ยุทธหัตถี ตำบลป่ามะม่วง อำเภอเมือง จังหวัดตาก ๖๓๐๐๐ โทรศัพท์ ๐๕๕ - ๕๑๔๐๖๒ โทรสาร ๐๕๕ - ๕๑๔๐๖๐ ประกอบกิจการประเภท สถานบริการด้านสุขภาพเบื้องต้น ให้บริการเฉพาะผู้ป่วยนอก โดยมี นางสาวนฤมล พรหมวา เป็นหัวหน้าสถานีกาชาดเทพรัตน์ ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่/ลูกจ้างประจำ จำนวน ๒๐ คน เป็นชาย ๖ คน หญิง ๑๕ คน ดังนี้
สถานีกาชาดเทพรัตน์ มีเจ้าหน้าที่และลูกจ้างประจำ ทั้งหมด ๒๑ คน ดังนี้
-
เจ้าหน้าที่พยาบาล ๘ คน
-
เจ้าหน้าที่ทันตสาธารณสุข ๑ คน
-
ผู้ช่วยทันตแพทย์ ๑ คน
-
เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์การแพทย์ ๑ คน
-
เจ้าหน้าที่ธุรการ ๑ คน
-
ช่างเทคนิค ๑ คน
-
เจ้าหน้าที่ประกอบอาหาร ๑ คน
-
นักการภารโรง ๓ คน
-
คนสวน ๑ คน
-
พนักงานขับรถ ๑ คน
-
พนักงานรักษาความปลอดภัย ๒ คน
หมายเหตุ เจ้าหน้าที่ทันตสาธารณสุขช่วยราชการที่สถานีกาชาดที่ ๔ จังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๔