รับข่าวสาร

Guest book

จำนวนผู้เข้าชม : 520510 ขนาดอักษร เปลี่ยนการแสดงผล C C C

รับข่าวสาร

Guest book

แผ่นดินไหว

หน้าหลัก >> ข้อมูลภัยพิบัติ >> ข้อมูลวิชาการ >> แผ่นดินไหว
ความรู้พื้นฐานทั่วไปเกี่ยวกับแผ่นดินไหว

ในการเผชิญภัยแผ่นดินไหวซึ่งเป็นภัยธรรมชาติที่มีก่อให้เกิดความเสียหายได้อย่างรุนแรง การศึกษาความรู้พื้นฐานเรื่องแผ่นดินไหวจึงเป็นสิ่งจำเป็น ทำให้ทราบถึงธรรมชาติของ สาเหตุการเกิด ตลอดจนลักษณะความรุนแรงของภัยแผ่นดินไหว ที่สามารถส่งผลกระทบได้กว้างไกล ลักษณะของแหล่งกำเนิดแผ่นดินไหวทั้งภายในและภายนอกประเทศไทย สถิติแผ่นดินไหวในอดีตและผลการตรวจวัดด้วยเครือข่ายสถานีตรวจแผ่นดินไหวในปัจจุบัน ปัจจุบันพบว่าประเทศไทยมิได้ปลอดภัยจากภัยแผ่นดินไหว ดังนั้นการวางแผนมาตรการป้องกันและบรรเทาภัยทั้งในระยะสั้นและระยะยาวที่มีประสิทธิภาพ มีส่วนสนับสนุนความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศโดยส่วนรวม ดัวยเหตุนี้กรมอุตุนิยมวิทยาจึงเริ่มพัฒนาระบบตรวจวัดความสั่นสะเทือนของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพและมีมาตรฐานเพิ่มขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับงานด้านวิศวกรรม ธรณีวิทยา การใช้ประโยชน์ของพื้นดิน และงานวิจัยอื่นๆ อีกทั้งดำเนินกิจกรรมแผนงาน นโยบาย ด้านแผ่นดินไหวร่วมกับหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมและจัดการภัยแผ่นดินไหวอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น
  
การศึกษาภัยธรรมชาติหลายชนิดที่รุนแรงในประเทศไทยเป็นไปอย่างกว้างขวางและมีประสิทธิภาพ เช่น ภัยทางด้านอุตุนิยมวิทยา พายุ ฝนฟ้าคะนอง น้ำท่วม ภัยแล้ง เป็นต้น ทั้งนี้เนื่องจากมีการพัฒนาทั้งทางด้านทฤษฎี และเครื่องมือตรวจวัดข้อมูลค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ด้านอุตุนิยมวิทยา มีเครือข่ายตรวจวัดที่หนาแน่นในประเทศและทั่วโลก รวมถึงมีการจัดการต่อภัยในภาพรวมที่เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ แต่ยังมีภัยธรรมชาติบางชนิด เช่น ภัยแผ่นดินไหว ซึ่งยังคงท้าทายต่อการศึกษาและทำความเข้าใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากลักษณะทางธรรมชาติของแผ่นดินไหวนั้นเกิดอยู่ใต้พื้นโลกหลายสิบกิโลเมตรและอาจมีตำแหน่งที่ลึกลงไปถึงหลายร้อยกิโลเมตรซึ่งยังไม่มีเครื่องมือตรวจวัดได้โดยตรง ดังนั้นความยากลำบากในการศึกษาจึงเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ แม้ว่าปัจจุบันได้มีการพัฒนาทั้งทางด้านทฤษฎีตลอดจนเครือข่ายและเครื่องมือต่างๆ ประจำอยู่ทั่วโลก เช่น เครื่องตรวจวัดความสั่นสะเทือนที่มีประสิทธิภาพสูงแต่ก็เพียงสามารถตรวจวัดได้จากบนพื้นผิวโลกเท่านั้น การวิเคราะห์แผ่นดินไหวที่อยู่ใต้พื้นโลก (Hypocenter) จึงเป็นในลักษณะตรวจสอบหรือวิเคราะห์ย้อนกลับจากผลการตรวจวัดคลื่นแผ่นดินไหวบนผิวโลก โดยคลื่นแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นทำหน้าที่คล้ายกับรังสีเอ็กซ์ (X-rays) เดินทางไปในโลก สะท้อนลักษณะโครงสร้างของโลก ลักษณะทางธรณีวิทยา มีการหักเหและการตอบสนองของคลื่นแผ่นดินไหวไปตามลักษณะทางกายภาพของโลกในชั้นต่างๆ ทำให้นักแผ่นดินไหวเข้าใจในธรรมชาติของแผ่นดินไหวและคุณสมบัติทางกายภาพของโลก ปัจจุบันการศึกษาเกี่ยวกับแผ่นดินไหวมุ่งเน้นไปในหลายรายละเอียด แต่สามารถสรุปได้ดังตารางที่ 1
 
ตารางที่ 1 หัวข้อการศึกษาวิชาแผ่นดินไหวในปัจจุบัน
 
แหล่งกำเนิดแผ่นดินไหว
โครงสร้างของโลก
1. การหาตำแหน่ง ศูนย์กลางแผ่นดินไหว (ละติจูด
    ลองจิจูดความลึก เวลาเกิด)

1.การแบ่งชั้นของโลก(เปลือกโลก แมนเทิล แกนโลก)

2. การปลดปล่อยพลังงาน(ขนาด โมเมนต์ของแผ่น
    ดินไหว)

2. ความแตกต่างระหว่างพื้นทวีปและมหาสมุทร

3. ชนิดของแหล่งกำเนิด(แผ่นดินไหว ระเบิด)

3. รูปร่างของ subduction zone

4. ลักษณะรอยเลื่อน(รูปร่าง พื้นที่ การขจัด
    การเคลื่อนตัว)

4. โครงสร้างและการแบ่งชั้นของเปลือกโลก

5. แรงเค้น(Stress)ของรอยเลื่อนและพื้นโลก

5.ลักษณะกายภาพในแต่ละชั้น(เป็น ของเหลว ของแข็ง)

6. การพยากรณ์แผ่นดินไหว

6. ความเปลี่ยนแปลงในชั้นเปลือกโลก

7.การวิเคราะห์เรื่องแผ่นดินถล่ม (Landslide)
   และภูเขาไฟ ระเบิด

7. ลักษณะของรอยต่อ

  8.การแปลความหมายขององค์ประกอบและความร้อนภายในโลก
 
ปัจจุบันความตื่นตัวในการศึกษาวิชาแผ่นดินไหว (Seismology) เป็นไปอย่างกว้างขวางทั่วโลกไม่เพียงเฉพาะนักแผ่นดินไหว (Seismologist) เท่านั้น แต่ยังเป็นที่สนใจของบรรดาวิศวกรเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการก่อสร้างให้มีความปลอดภัยเพิ่มขึ้น ความรู้พื้นฐานด้านแผ่นดินไหวที่วิศวกรควรทำความเข้าใจ ได้แก่

1. สาเหตุของการเกิดแผ่นดินไหว
2. ลักษณะของคลื่นแผ่นดินไหว
3. ปริมาณสำหรับการวัดแผ่นดินไหวเช่น ขนาด ความรุนแรงแผ่นดินไหว พลังงาน
4. แหล่งกำเนิดแผ่นดินไหว
5. การตรวจวัดแผ่นดินไหวและเครื่องมือ
6. สถิติแผ่นดินไหว
7. องค์ประกอบที่เพิ่มความเสียหาย
8. แหล่งข้อมูลแผ่นดินไหว
9. การจัดระบบป้องกันและบรรเทาภัยแผ่นดินไหว

© สงวนลิขสิทธิ์ สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย